ต้องการแอปที่เหมือนกับ Windows Movie Maker ใช่ไหม?

ดาวน์โหลด Movavi Video Editor เลยสิ!
ท่านจะได้รับ


  • การสนับสนุนฟอร์แมตวิดีโอและออดิโอที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
  • แบ่งปันวิดีโอบน YouTube และ Vimeo ได้อย่างง่ายดาย
  • ใช้ตัวเลือกและเอฟเฟ็กต์การแก้ไขนับสิบรายการ
  • การช่วยเหลือและสนับสนุนแบบครบวงจร

บทรีวิว Movavi Video Editor กับ Windows Movie Maker

Windows Movie Maker เป็นซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอฟรีที่มีให้ใช้งานบนเครื่อง PC เกือบทุกเครื่อง ซึ่งได้รับการพัฒนาโดย Microsoft ในฐานะส่วนหนึ่งของชุดโปรแกรมมาตรฐานที่รวมอยู่ใน Windows XP และพร้อมใช้งานบน Windows 7 และ Windows 8 เมื่อไม่นานมานี้ แม้ว่าไม่สามารถดาวน์โหลดได้อีกต่อไปแล้วในเว็บไซต์ Microsoft ที่เป็นทางการ คุณยังสามารถดาวน์โหลด Windows Movie Maker จากแหล่งเว็บภายนอกได้ แต่ท่านควรจะทำแบบนั้นจริงๆ หรือ? ท่านสามารถลองใช้งานโปรแกรมที่ทรงพลังเฉกเช่น Movavi Video Editor ที่จะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงเครื่องมือหลากหลายชนิด และยังพร้อมให้บริการสำหรับผู้ใช้ Mac อีกด้วย

เราจะทำการเปรียบเทียบแอปทั้งสองเพื่อช่วยให้ท่านสามารถตัดสินใจเลือกใช้งาน Windows Movie Maker หรือดาวน์โหลด Movavi Video Editor ได้ โดยมีเกณฑ์ดังต่อไปนี้

อินเทอร์เฟซผู้ใช้งาน

Windows Movie Maker 2012

Movavi Video Editor

ความเรียบง่ายของ Windows Movie Maker เป็นหนึ่งในสุดยอดจุดเด่นของโปรแกรมที่คงความได้เปรียบเสมอมา ซึ่งเห็นได้ว่า Movavi Video Editor เองก็มีความเรียบง่ายที่คล้ายคลึงกันมากในส่วนนี้ และโปรแกรมทั้งสองยังมาพร้อมกับอินเทอร์เฟซที่รู้ใจที่มีรูปแบบการนำทางที่ใกล้เคียงกัน อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ มากมายได้เหมือนกันอีกด้วย

คุณสมบัติอินพุต และเอาต์พุต

ถัดไป เราจะมาเปรียบเทียบความคุ้มค่าในการใช้งานของโปรแกรมในส่วนของรูปแบบไฟล์ที่รองรับ

พารามิเตอร์เปรียบเทียบ

Windows Movie Maker 2012

Movavi Video Editor

รองรับฟอร์แมตมีเดียอินพุตส่วนใหญ่

รองรับฟอร์แมตมีเดียเอาต์พุตส่วนใหญ่

วิดีโอ: รองรับแค่เพียง MPEG-4, WMV

ออดิโอ: รองรับแค่เพียง MPEG-4/AA

รองรับอุปกรณ์ส่วนใหญ่

รองรับวิดีโอแบบ 4K

ระบบเร่งความเร็วมีเดียของ Intel®

เราพบว่า Windows Movie Maker ไม่มีศักยภาพในการรองรับฟอร์แมตมีเดียที่หลากหลายเพื่อใช้สำหรับการบันทึกไฟล์ของท่าน โดยโปรแกรมดังกล่าวสามารถรองรับฟอร์แมตไฟล์ได้เพียง 4 ฟอร์แมต ในขณะที่ Movavi Video Editor สามารถรองรับฟอร์แมตไฟล์ได้มากกว่าหลายสิบฟอร์แมต ยิ่งไปกว่านั้น แอปของ Movavi ยังรอบรับการทำงานร่วมกับวิดีโอแบบ 4K ซึ่งนับว่าเป็นข้อได้เปรียบสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจจะทำงานร่วมกับวิดีโอที่มีความละเอียดอยู่ในระดับดังกล่าว และยังมาพร้อมกับฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วของ Intel® ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติสุดเจ๋งที่จะทำให้ขั้นตอนการทำงานของท่านราบรื่นมากยิ่งขึ้น หากท่านเลือกใช้งาน Movavi

เครื่องมือจับภาพ

แล้วในส่วนของเครื่องมือสำหรับจับภาพและเสียงออดิโอจากแหล่งต่างๆ ล่ะ? ท่านสามารถดูคำตอบจากภาพด้านล่างได้เลย

Windows Movie Maker มีตัวเลือกเครื่องมือที่จำกัดมาก และในกรณีที่ท่านต้องการสร้างสกรีนแคสต์จากอุปกรณ์อื่นๆ นอกเหนือจากเว็บแคม เราขอแนะนำให้ท่านเลือกใช้งาน Movavi Video Editor ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถจับเสียงออดิโอ และวิดีโอจากแหล่งต่างๆ มากมาย เช่น กล้องถ่ายวีดีโอแบบ HD เว็บแคม ตัวรับสัญญาณทีวี วิดีโอเทป และอื่นๆ อีกมากมาย

เครื่องมือตัดต่อ

ข้อมูลเปรียบเทียบโดยย่อของเครื่องมือตัดต่อวิดีโอและรูปภาพในโปรแกรมทั้งสอง

พารามิเตอร์เปรียบเทียบ

Windows Movie Maker 2012

Movavi Video Editor

ทรานซิชันและเอฟเฟกต์

น้อย

ค่าพรีเซตของแคปชัน

น้อย

คอลเอาต์

สติกเกอร์

โครมาคีย์

ปรับปรุงฟุตเทจ (พลิก ครอป และหมุน)

พลิกและหมุนได้เท่านั้น

ปรับปรุงคุณภาพและระดับโทนเสียง

คุณสมบัติใหม่: การกำจัดเสียงรบกวน และอีคลอไลเซอร์

แยกและเล็มขอบ

แพนและซูม

ปรับฟุตเทจให้เรียบเนียน

ปรับปรุงแบบอัตโนมัติ

หมดไทม์ไลน์

มาสก์และไฮไลท์

Windows Movie Maker มาพร้อมกับชุดคุณสมบัติที่ค่อนข้างน้อย โดยคุณสามารถใช้งานเอฟเฟกต์ และทรานซิชันได้เพียงไม่กี่รูปแบบเท่านั้นเมื่อเทียบกับชุดคอลเล็กชันอันยอดเยี่ยมที่มาพร้อมกับ Movavi Video Editor ที่ยังมีค่าพรีเซตไตเติ้ลที่หลากหลายให้เลือกสรรอีกด้วย เพราะในขณะที่ท่านกำลังตัดต่อโปรเจ็กต์ของท่านที่บ้านหรือในสำนักงาน ท่านก็คงต้องการโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะสามารถตอบสนองต่อความคิดสร้างสรรค์ของท่านได้ และนี่เป็นสิ่งที่เราจัดเตรียมไว้ให้กับผู้ใช้งาน Movavi ทุกท่าน พร้อมกับคุณสมบัติสารพัดประโยชน์ เฉกเช่น คอลเอาต์ การปรับปรุงแบบอัตโนมัติ และโหมดไทม์ไลน์ นอกจากนี้ คุณยังสามารถรับเอฟเฟ็กต์มากขึ้นได้ที่ Movavi Effects Store

การช่วยเหลือและสนับสนุน

ระดับการสนับสนุนผู้ใช้เป็นสิ่งที่โปรแกรมแก้ไขวิดีโอทั้งสองมีความแตกต่างกันมากที่สุด

พารามิเตอร์เปรียบเทียบ

Windows Movie Maker 2012

Movavi Video Editor

คำถามที่พบบ่อยและวิธีการใช้งาน

วิดีโอแนะนำและคู่มือ

อีเมล

Live chat

ฟอรัม/ชุมชน

เว็บไซต์ของ MS ไม่มีสื่อให้ความรู้ใดๆ เกี่ยวกับโปรแกรมของพวกเขาเลย และการสนับสนุนผู้ใช้รูปแบบเดียวที่พวกเขามีก็คือ บริการสนับสนุนที่ให้คุณติดต่อพวกเขาได้โดยผ่านทางอีเมลและฟอรัมเท่านั้น ซึ่งตรงกันข้ามกับเว็บไซต์ของ แต่อย่าลืมว่า Windows Movie Maker ไม่สามารถดาวน์โหลดได้อีกต่อไปแล้ว การลองดาวน์โหลดจากเว็บไซต์อื่น ๆ อาจเป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ของคุณ

Movavi ที่มีเนื้อหาสารพัดประโยชน์มากมาย รวมถึงคำถามที่พบบ่อย คู่มือ และวิดีโอแนะนำที่มีการอัปเดตเป็นประจำ และในกรณีที่มีบางอย่างทำงานไม่ถูกต้อง หรือเกิดข้อขัดข้องใดๆ ท่านก็สามารถติดต่อบริการ Live chat ของบริษัทเพื่อรับความช่วยเหลือแบบเรียลไทม์ได้ทันที

ราคา

Microsoft Windows Movie Maker

ฟรี

Movavi Video Editor

ข้อดีหลัก ๆ ของ Windows Movie Maker คือเรื่องราคา เพราะเป็นฟรีแวร์ ดังนั้นจึงถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถได้รับในแง่ของมูลค่าทางการเงิน Movavi Video Editor เวอร์ชันเต็มมีราคาอยู่ที่ 790 บาท แต่คุณสมบัติการใช้งานที่หลากหลายทำให้เป็นโปรแกรมที่คุ้มค่าในการลงทุนจริง ๆ Movavi Video Editor แบบเวอร์ชันเต็มมีราคา $79.95 แต่ก็มาพร้อมกับคุณสมบัติที่หลากหลาย ซึ่งนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ

$79.95
(รวม ภาษีมูลค่าเพิ่ม)

หากท่านต้องการเครื่องมือตัดต่อวิดีโอที่เรียบง่าย ใช้งานง่าย และไม่มีค่าใช้จ่าย เราขอแนะนำให้ท่านใช้ Windows Movie Maker ได้เลย แต่ถ้าท่านต้องการยกระดับเสรีภาพในการสร้างสรรค์ผลงาน หรือใช้งาน Mac อยู่ล่ะก็ เราขอแนะนำให้ท่านลองใช้ Movavi Video Editor ซึ่งจะช่วยให้ท่าน

  • ทำงานร่วมกับฟอร์แมตมีเดียหลากหลายชนิดได้มากยิ่งขึ้น
  • แบ่งปันวิดีโอบน YouTube และ Vimeo ได้อย่างง่ายดาย
  • ใช้ตัวเลือกและเอฟเฟ็กต์การแก้ไขนับสิบรายการ
  • รับการสนับสนุนแบบครบวงจร

เพียงแค่ดาวน์โหลดตัวติดตั้ง Movavi Video Editor ทำตามคำแนะนำ และเริ่มตัดต่อวิดีโอของท่านเฉกเช่นมืออาชีพได้เลย

ลิงก์ที่มีให้เป็นซอฟต์แวร์เวอร์ชันล่าสุดที่มีการอัปเกรดที่จำเป็นทั้งหมด

ความต้องการของระบบ Microsoft® Windows® 7/8/10/11 พร้อมแพตช์ปรับปรุงล่าสุด และการติดตั้งเซอร์วิสแพ็ก (32 บิตหรือ 64 บิต); Mac OS X® 10.13 หรือสูงกว่า (64 บิต)

เข้าร่วมเพื่อรับคำแนะนำวิธีการ ข้อเสนอพิเศษ และเคล็ดลับเกี่ยวกับแอป!